Work From Home อยู่บ้าน ผิวก็โดนทำร้ายได้
วันที่อัพเดท : 28-04-2020 อ่าน : 1550 ครั้ง

ทำงานจากที่บ้านอย่างนี้ ไม่ต้องเจอแสงแดด อย่างงี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าผิวจะเสียสิค๊า
เดี๋ยวก่อน! หยุดความคิดนี้ไปก่อนเลยค่า มีเพื่อนๆแอดมินหลายคนก็คิดแบบนี้ จนกระทั่งผิวหน้าเริ่มคล้ำดำหมอง มาปรึกษาแอดมินว่าอยู่บ้านทั้งวัน ไม่ได้เจอแสงแดดพระอาทิตย์เลย ทำไมนะทำไม หน้าพวกเธอกลับหมองคล้ำดำลง
นั่นก็เป็นเพราะต่อให้อยู่ที่บ้าน แต่ผิวของเรายังสัมผัสกับรังสีร้ายทำลายผิวโดยที่เราไม่รู้ตัว เหล่ารังสีตัวร้ายที่เรายังต้องพบเจอภายในบ้าน มีอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยจ้า
1. รังสี UVA
เชื่อว่าหลายๆคนคงคุ้นหูคุ้นตากับคำว่ารังสี UV ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ UVA UVB และ UVC แต่รังสีที่สามารถทะลุกระจกเข้าภายในบ้านเราได้ ก็คือเจ้า UVA เป็นรังสีที่มีอยู่ตลอดเวลา มีความเเอดวานซ์กว่าเพื่อนๆอย่าง UVB กับ UVC
คือสามารถทะลุผ่านชั้นเมฆหมอกควันได้ และทะลุผ่านกระจกได้ด้วย! เพราะอย่างนั้นอย่างที่บอกไป ต่อให้อยู่บ้านก็สัมผัสรังสี UVA ที่ทะลุผ่านกระจกเข้ามาได้จ้า UVA เป็นรังสีที่กระตุ้นเม็ดสีเมลานีน ทำให้ผิวเป็นสีน้ำตาลในระยะสั้นๆ ผ่านลึกลงไปถึงผิวชั้นหนังแท้ ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวันอันควร
ถ้าสะสมมากๆจะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังบางชนิดได้ แต่เอ๊ะ แล้วรังสี UV อีก2ชนิดล่ะ พูดถึง UVA แล้ว UVB กับ UVC หายไปไหน? คืออย่างนึ้ค่ะ เจ้าUVB ไม่สามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาได้ ยกเว้นว่าเราออกไปตากแดดข้างนอก ส่วนรังสี UVC เขามาได้ไม่ไกล มาไม่ถึงผิวโลก มาไกลสุดได้แค่ยอดเขาสูงๆค่ะ
2. รังสี IR
รังสี IR ที่ว่าก็คือ รังสีอินฟราเรด (Infrared) หรือรังสีความร้อน เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่แผ่มาจากดวงอาทิตย์ หรือเป็นรังสีที่มาจากแหล่งความร้อน ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่เรารู้สึกถึงความร้อนได้ ขอบอกเลยว่า เจ้ารังสีอินฟาเรดเนี่ยร้ายกว่ารังสี UV อีกนะคะน่ากลัวเป็นอันดับต้นๆของการทำร้ายผิวเลย
แถมยังเป็นรังสีที่เราสัมผัสอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัวถึงแม้จะอยู่ภายในบ้าน เพราะมีอยู่ในแสงอาทิตย์ เปลวไฟ และอุปกรณ์ภายในบ้านหลายอย่างเลยค่ะที่เป็นตัวสร้างรังสีอินฟาเรด เช่น คอมพิวเตอร์ หลอดไฟชนิดทังสเตน ทีวี LED หลอดไฟ LED อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เตาความร้อน หรือแม้กระทั่งไดร์เป่าผม แล้วยิ่งช่วงนี้หลายๆคน Work From Home หรือต้องกักตัวอยู่ที่บ้านทั้งวัน ทำกิจกรรมต่างๆผ่านหน้าจอ
ยิ่งทำให้ใกล้ชิดกับรังสี IR ถ้าเราได้รับแสง IR ติดต่อกันเป็นเวลานานสะสม จะส่งผลร้ายต่อผิวหนัง อย่างริ้วรอยลึก เหี่ยวย่นแก่ก่อนวัย ผิวหนังเสียความยืดหยุ่น หมองคล้ำ น่ากลัวสุดก็คือก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังเลยนะคะ
3. แสง Blue light
คือ แสงสีฟ้า ที่เรารู้จักกันในชื่อบลูไลท์ (Blue light) ชื่อนี้อาจไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ Blue light เป็นส่วนหนึ่งของแสงที่เรามองเห็น ซึ่งแสงแบ่งออกเป็น 7 สี คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง พูดให้ง่ายๆก็คือสีรุ้งนั่นเอง
โดยแสงสีฟ้าเป็นสีที่ให้ความสว่างมากที่สุด มีพลังงานสูงมากกว่าแสงสีอื่น สามารถพบได้จากทุกแหล่งกำเนิดแสง ทั้งจากแหล่งแสงธรรมชาติ และแสงที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น เช่น หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หลอดไฟ LED หรือแม้กระทั่งกิจกรรมที่ต้องใช้แสงอย่างการเป่าแก้ว หรือการเชื่อมเหล็ก โดยปริมาณความเข้มข้นของแสงสีฟ้าก็จะแตกต่างกันไป เห็นได้ชัดเลยว่าแสงสีฟ้าเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด นอกจากรังสี UV ที่เป็นตัวทำร้ายผิวแล้ว แสงสีฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำร้ายผิวเช่นกัน
ความรุนแรงอาจไม่เท่ากับรังสี UVA แต่ก็สามารถทะลุเข้าสู่ผิวหนังได้ถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิวที่มีอีลาสตินอยู่ เจ้าแสงสีฟ้าจะไม่ทำให้ผิวของเราระคายเคืองในทันทีทันใดนะคะ แต่มันจะเป็นเหมือน “ภัยเงียบ” ที่ค่อยแทรกตัวเข้าไปในผิวเรา และทำร้ายผิวทางอ้อม (ว้าย! นางร้ายมากค่ะ) โดยจะ เข้าไปทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่นำไปสู่การทำลายผิวให้เสื่อมสภาพ เกิดการทำลายคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและริ้วรอยเหี่ยวย่น ก่อให้เกิดปัญหา สิว ฝ้า กระ ตามมา
จากที่กล่าวมาต่างๆ บอกตรงๆเลยค่ะแอดมินก็เคยเจอปัญหาเหล่านี้เหมือนกัน เนื่องจากต้องนั่งทำงานที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน แต่ถ้าจะบอกให้เลิกใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นเราต้องหาวิธีที่ง่ายกว่าด้วยการปกป้องผิว
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่กันแดดแม้กระทั่งเวลาที่เราต้องอยู่บ้าน ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ที่จะสามารถเข้าไปช่วยปกป้องผิวจากเจ้าตัวอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากแสงสีฟ้า
ขอแนะนำผู้ช่วยปกป้องผิวของแอดมิน
BK Acne BB SUNSCREEN บีบีกันแดดสำหรับคนเป็นสิว เป็นทั้งบีบีและกันแดดแบบ 2in1 สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA รังสี IR และแสงสีฟ้า เป็นบีบีที่เหมาะกับทุกสภาพผิว จะผิวเป็นสิวหรือผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้โดยไม่ต้องกังวลค่ะ ด้วยคุณสมบัติ SPF 50+ PA++++ และนอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของ Rosemary ที่มีสาร antioxidant ช่วยต้านอนุมูลอิสระอย่างมีประสิทธิภาพ และ
Licorice ที่ช่วยลดฝ้ากระจุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานีน ดูดซับรังสี UV และบำรุงผิวให้สดใสเปล่งปลั่ง แต่อ่านมาถึงจุดๆนี้ อาจจะมีบางคนกำลังสงสัยว่า ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA รังสี IR และแสง Blue Light ภายในบ้านได้ก็จริง แต่เป็นบีบี ใช้แล้วจะไม่อุดตันผิวเหรอ ณ จุดๆ นี้บอกเลยค่ะ ว่า ใช้ได้ทุกวันไม่มีอุดตันแน่นอน โอ้โห! ช่างเหมาะกับสาวๆยุคนี้ที่ต้องดูแลตัวเองให้สวยดูดีทุกสถานที่มากๆค่ะ ว่าแล้วก็รีบไปสอยเจ้า BK Acne BB SUNSCREEN มาปกป้องผิวช่วงนี้กันดีกว่า รีบๆกันเลยจ้า